Train

ชื่อเรื่อง : 트레인 / Train
ประเภท : ลึกลับ,ระทึกขวัญ
จำนวนตอน : 12
ออกอากาศช่อง : OCN
ช่วงเวลาออกอากาศ : 11 ก.ค. 2020 - 16 ส.ค. 2020
วันเวลาออกอากาศ : เสาร์ อาทิตย์ 20.50 น.


สปอยล์ Train ตอนที่ 12

สายสืบคังถูกมินจุนมัดไว้ในบ้านหลังนั้น และเขาพยายามใช้ของมีคมบริเวณนั้นตัดเชือก เมื่อโอมีซุกและมินจุนได้เผชิญหน้ากันที่โต๊ะอาหาร เขาได้เปิดคลิปเสียงของเหยื่อให้โอมีซุกฟังอีกครั้งและบอกเธอว่าเขาขอกินข้าวกับเธอก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะทำอย่างไรกับคลิปเสียงนั้น ไม่ว่ามินจุนจะถามถึงสาเหตุที่คลอดเขาออกมา หรือทอดทิ้งเขาไป มีซุกก็ตอบเพียงว่าเพราะเธอเป็นแม่ของเขา มินจุนตัดพ้อที่เธอไม่ทำหน้าที่แม่ ซึ่งต้องหยุดเขาหรือจับใส่กุญแจมือ และสิ่งที่เธอปกป้องนั้นไม่ใช่เขาแต่เป็นตัวเธอเอง เมื่อทั้งคู่ยินเสียงตะกุกตะกัก มินจุนจึงวิ่งออกไปดูและเห็นสายสืบคังกำลังหนี เขาจึงใช้ท่อนเหล็กฟาดสายสืบคัง มินจุนเห็นโอมีซุกตามออกมาดู จึงฟาดสายสืบคังซ้ำอีกเพราะต้องการให้เธอห้ามและหยุดเขา จนกระทั่งเธอตะโกนขอให้เขาหยุด และเป็นคนใช้ท่อนเหล็กนั้นฟาดสายสืบคังจนสลบไป มินจุนเดินเข้ามาหาแม่ด้วยรอยยิ้มและมอบแหวนคืนให้เธอ จากนั้นเขาก็บีบคอแม่และพยายามใช้สายสร้อยรัดคอ เขาโทษเธอที่นำโรคร้ายมาให้และทำให้เขาต้องเป็นปีศาจ ซอคยองเพิ่งมาถึงจึงใช้ปืนยิงที่แขนของมินจุน ขณะที่ซอคยองกำลังเรียกรถพยาบาลเพื่อช่วยสายสืบคังที่สลบอยู่ เธอได้ยินเสียงปืนที่โอมีซุกกำลังจ่ออยู่ด้านหลังและขอให้เธอทิ้งปืน ซอคยองไม่เข้าใจโอมีซุก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มินจุนกำลังจะฆ่าเธอ มินจุนหัวเราะชอบใจที่มีซุกต้องทำขนาดนี้ โอมีซุกซึ่งเคยเห็นมินจุนพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้ว เธอจึงบอกเขาว่าจะไม่ยอมเสียลูกอีกเด็ดขาด และมันคือเหตุผลที่ไม่เคยหยุดหรือห้ามเขา

โดวอนซึ่งได้กลับมายังโลกที่สองพยายามโทรหาซอคยอง แต่โทรศัพท์ของเธอตกอยู่ที่พื้น เมื่อซอคยองเห็นโอมีซุกมองไปที่โทรศัพท์ เธอจึงใช้จังหวะนี้ต่อสู้กับโอมีซุกจนปืนหลุดจากมือ แต่โอมีซุกคว้ามาได้อีกและบอกกับลูกชายว่า จงใช้ชีวิตต่อไป เพราะเธอจะจบชีวิตตัวเองที่ทำให้เขาต้องเป็นปีศาจ ระหว่างที่มีซุกตามล่าซอคยองรอบๆ บ้าน โดวอนเพิ่งมาถึงและใช้ปืนจ่อมินจุนจากด้านหลังในขณะที่เขากำลังก้มเก็บปืนของซอคยองที่พื้น โอมีซุกเล็งปืนไปที่ซอคยองและบอกว่าเธอจะปกป้องลูกชายของเธอโดยเอาทุกอย่างเป็นเดิมพัน ขณะที่โดวอนใช้มินจุนเป็นตัวประกันและบอกมีซุกว่า หากแตะต้องซอคยองแม้แต่ปลายก้อย เขาจะยิงมินจุนทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจึงใส่กุญแจมือโอมีซุกและมินจุน มินจุนบอกแม่ว่าตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าใครควรเป็นเหยื่อรายสุดท้ายของเขา จากนั้นมินจุนก็แย่งปืนจากตำรวจและยิงหัวตัวเอง ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวไป โอมีซุกหัวเราะออกมาและบอกโดวอนว่า เขาจะต้องเสียใจและทุกข์ทรมานที่ข้ามเขตแดนมายังโลกที่สองนี้

ซอคยองขอบคุณโดวอนที่มายังโลกที่สอง ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีใครรู้ความจริง เขาได้เปลี่ยนทุกอย่างที่นี่ โดวอนบอกเธอว่าเขาจะอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่อเคียงข้างผู้หญิงคนนั้น เพราะโลกที่เธออยู่นั้นคือโลกที่สำคัญสำหรับเขา ซอคยองบอกว่าเธอจำเรื่องราวของตัวเองในโลกที่หนึ่งไม่ได้ แต่ก็ขอบคุณโดวอนและโล่งใจที่ได้เจอเขา เช่นเดียวกับคำพูดของซอคยองในโลกที่หนึ่ง โดวอนยอมพูดความจริงกับเธอว่าเขารักเธอทุกๆ วินาทีไม่ว่าจะโลกที่หนึ่งหรือสอง เพราะในโลกที่หนึ่งเขายังไม่ได้บอกเธอ จนกระทั่งเธอตายไป

อีจองมินให้โดวอนดูบั้งตำรวจและกระสุน ที่พบในซากรถที่จมน้ำและมีโครงกระดูกอยู่ในนั้น เธอไม่เข้าใจว่าหากมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกฆาตกรรมหรือหายตัวไปแบบนี้ ทำไมจึงไม่มีข่าวออกมาเลย โดวอนขอบคุณอีจองมินที่ช่วยให้เขากลับมาได้ เธอจึงบอกว่าแค่ได้เห็นหน้าเขาก็พอแล้ว

ซอคยองออกไปทำคดีและนัดเจอกับโดวอนที่บ้านหลังจากที่เธอเสร็จงาน โดวอนมองดูรูปโอมีซุกที่บอร์ด ตอนที่เธอรับตำแหน่งผู้อำนวยการเมื่อปี 2012 เขาสังเกตว่าเธอมีรอยแผลเป็นที่ข้อมือ ซึ่งต่างจากโอมีซุกที่เพิ่งโดนตำรวจจับ โดวอนจึงโทรหาอีจองมินเพื่อให้ตรวจดีเอ็นเอของโอมีซุกกับโครงกระดูกที่พบในซากรถ

ซอคยองถูกคนร้ายแทงกระหน่ำจนสลบอยู่ในบ้าน สาเหตุเพราะเธอมีบัญชีรายชื่อลูกค้ายาเสพติดของอีจินซอง โดวอนมีอาการวี๊ดในหูอย่างรุนแรง และเห็นภาพซอคยองในโลกที่หนึ่งตายอยู่ข้างทางรถไฟ เขาไม่เชื่อว่าทุกอย่างจะเกิดซ้ำอีก เพราะทุกอย่างมันจบไปแล้ว โดวอนจึงรีบไปหาเธอที่บ้านและเห็นซอคยองนั่งจมกองเลือดเหมือนกับตอนที่เธอตายในโลกที่หนึ่ง คำพูดของโอมีซุกผุดขึ้นมาในหัวว่า เขาจะต้องเสียใจและทุกข์ทรมานที่ข้ามเขตแดนมาฟากนี้ โดวอนร้องไห้กอดซอคยองเพราะคิดว่าเธอตายแล้ว จากนั้นเธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

โดวอนไปหาโอมีซุกที่คุกซึ่งเธอบอกว่ากำลังรอเขาอยู่ โดวอนต้องการรู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ เพราะหัวหน้าโอมีซุกของโลกนี้ได้ตายไปแล้วจากการพิสูจน์โครงกระดูกในซากรถ มีซุกบอกว่าเธอเป็นคนที่ข้ามเขตแดนมาเพื่อกอบกู้สิ่งที่เสียไปกลับคืนมา แต่โชคร้ายที่ไม่อาจหนีโชคชะตาของตัวเองได้เช่นเดียวกับโดวอน เธอยังบอกอีกว่าคนที่ข้ามเขตแดนมา ไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นอีกที่อยากหนีโชคชะตาอันโหดร้าย โดวอนไม่เข้าใจในสิ่งที่โอมีซุกพูดอีกมากมาย เขาจึงหาว่าเธอบ้าและเพ้อเจ้อ เขาโทษเธอและมินจุนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างและสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา แต่มีซุกกลับบอกว่าเขาคือคนที่ดันทุรังทุกอย่าง เพราะการปรากฏตัวของเขาและช่องว่างที่เขาเติมเต็ม กำลังทำให้โลกใบนี้ปั่นป่วน คนที่ไม่ควรเจอกันก็ได้เจอกัน ความจริงที่ซ่อนไว้ก็ถูกเปิดเผย เธอเองก็อยากจะหยุดมันเช่นเดียวกับเขา แต่ว่าครั้งนี้เธอได้พยายามที่จะฝืนชะตาตัวเอง แต่ผลที่ได้รับก็คือลูกชายของเธอยิงตัวตาย และสุดท้ายโดวอนก็จะต้องเป็นเหมือนเธอ หากเขาไม่ข้ามมาที่โลกใบนี้ และไม่ได้เจอซอคยอง ไม่ตามหาจองคยองฮีเหยื่อรายที่หก และไม่จับคิมจินอู ทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้น และสิ่งที่เขาจะต้องชดใช้ก็คือการตายของซอคยอง ซึ่งเขาไม่อาจหยุดมันได้ เธอจะต้องตายหากเขายังอยู่ในโลกใบนี้ รถไฟขบวนนั้นต้องคำสาป และเขาจะต้องเวียนวนอยู่ในโชคชะตาเหล่านี้โดยไม่สิ้นสุด จากนั้นโดวอนจึงไปที่สถานีรถไฟและเห็นขบวน 8210 จอดอยู่ในโรงเก็บและแขวนป้ายไว้ว่าซากรถ เขาใช้ฆ้อนทุบป้าย 8210 และนาฬิกาที่เคยบอกเวลา 21.35 น.

สายสืบคังรายงานโดวอนว่าตำรวจอิลซองจับคนร้ายที่แทงซอคยองได้แล้ว ซึ่งเป็นสมุนของวีไอพีที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของอีจินซอง โดวอนตกใจเมื่อสายสืบคังบอกว่าซอคยองได้รายชื่อจากยูเอชบีที่เขาเคยให้ไว้ ทำให้เธอต้องโดนแทง และเมื่อเห็นสายสืบแจฮยอกเดินขากะเผลกเพื่อเข้ามาลางานต่อ ทำให้โดวอนรู้สึกแย่ที่คนอื่นๆต้องได้รับความเดือดร้อนเพราะตัวเอง อย่างที่โอมีซุกพูดไว้ และสิ่งที่สารวัตรใหญ่โดวอนเคยบอกว่าเขาไม่สามารถปกป้องใครได้เลย เขาจึงไม่ควรมาที่นี่

โดวอนไปหาซอคยองที่โรงพยาบาลและสัญญาว่า เขาจะยอมทำทุกอย่างตามที่เธอต้องการและจะไม่ปล่อยให้เธอต้องเจ็บตัวอีก โดวอนบอกกับตัวเองว่าเขาจะมีชีวิตอยู่จนวันตายเพื่อเธอ

เมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในวันนึ่งขณะที่โดวอนและซอคยองออกไปเดินเล่นด้วยกัน เขาชี้ให้เธอดูป้ายรถเมล์ที่เขาเจอเธอครั้งแรก ในคืนที่ฝนตกและพ่อของเธอถูกฆ่าตาย เขาได้ให้ร่มเธอไว้ ซึ่งสารวัตรใหญ่โดวอนในโลกที่สองไม่ได้ให้ไว้ และนั่นคือจุดเปลี่ยนของโลกทั้งสอง โดวอนที่ได้เจอเธอกับโดวอนที่ไม่ได้เจอเธอ ซอคยองมองไปที่ป้ายรถเมล์นั้นและนึกไม่ออกถึงเหตุการณ์ที่โดวอนเล่า เมื่อไปส่งซอคยองที่บ้านแล้ว เขาโน้มเธอมากอดก่อนที่จะให้เธอกลับขึ้นไป โดยที่เขายังนั่งอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยดีแล้ว โดวอนจึงตัดสินใจไปที่ทางรถไฟ โดยส่งข้อความเสียงไว้ในโทรศัพท์ของเธอ เขาขอโทษที่เธอกับเขาต้องมาเจอกัน และในบรรดาสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เรื่องดีเรื่องเดียวก็คือการได้เจอเธอ เขาจึงไม่เสียใจที่จะย้อนเวลากลับไป และถึงแม้ว่าทุกอย่างซ้ำรอยเดิมเขาก็ยังอยากเจอเธออยู่ดี

ซอคยองพยายามนึกถึงร่มสีเหลืองที่โดวอนเล่าให้ฟัง แต่ร่มที่เธอเก็บไว้นั้นคือร่มสีเขียวที่โดวอนให้เธอ เธอจึงคิดว่าเขาและเธอเคยเจอกันแล้วในโลกที่สองนี้และเคยช่วยเธอไว้ในคืนนั้น เมื่อได้ฟังข้อความเสียงของโดวอนแล้ว ซอคยองพยายมโทรหาเขาในขณะที่เขาตัดสินใจจะยิงตัวตายที่ทางรถไฟ แต่ทันใดนั้นเองโดวอนก็ได้เห็นรถไฟขบวน 8210 กำลังวิ่งมาอีกครั้ง

ซอคยองไปหาโอมีซุก ซึ่งมีอาการสั่นของโรคฮันติงตันและเห็นเธอนั่งท่องวันที่ที่ลูกชายของเธอตายไปถึงสี่ครั้ง ซอคยองจึงรู้ว่ายังมีโลกใบอื่นอีกและถามมีซุกถึงกฎที่ใช้เปิดเส้นทางในแต่ละโลก มีซุกบอกว่าหากซอคยองเจอกับโดวอนอีก เธอก็จะต้องตายโดยที่ไม่สามารถหยุดมันได้ แต่ซอคยองบอกว่านั่นไม่ใช่โชคชะตาของเธอ การที่ได้เจอเขาหลายๆ ครั้งและใช้ชีวิตต่อไป นั่นคือโชคชะตาของพวกเขาต่างหาก

“ในโลกที่สาม” โดวอนวิ่งหนีสายสืบแจฮยอก สายสืบคิมจินอูและสายสืบคังจุนยอง..
และที่โลกที่สามนั้นก็มีโดวอนอีกคนอยู่เช่นกัน

ในขณะที่โดวอนซึ่งกำลังวิ่งหนีกำลังข้ามถนน
เขาก็ได้เจอกับซอคยอง ซอคยองพูดว่า บางทีเราทุกคนอาจจะมีชีวิตที่แตกต่างอยู่อีกโลกหนึ่ง แต่โดวอนกลับตอบว่าไม่ว่าจะได้เจอกันที่ไหน โชคชะตาก็ไม่ได้ลิขิตให้เราอยู่ด้วยกัน ก่อนจะเดินหนีไป แต่ซอคยองก็คว้ามือเขาไว้ และพูดว่า ถึงตอนนี้ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด แต่เธอกลับแนะนำตัวเองกับโดวอน อย่างที่โดวอนเคยทำ และขอให้เขาเริ่มต้นใหม่กับเธอ..