สปอยล์ Crash Landing on You ตอนที่ 15

กูซึงจุนถูกเถ้าแก่ชอนและลูกน้องชาวจีนจับตัวไปเพื่อข้ามชายแดนจีนโดยรถยนต์ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวัน คืนนี้พวกเขาจึงต้องพักแรมที่ตลาดระหว่างทาง
อธิบดีกองทัพสั่งให้โชชอลกังกำจัดรีจองฮยอก หากไม่สำเร็จก็ไม่ต้องกลับไปที่ฝั่งเหนืออีก ตำรวจนำกำลังมาล้อม ขณะที่จองฮยอกและโชชอลกังเผชิญหน้ากัน โชชอลกังเป็นฝ่ายยิงจองฮยอกก่อน แต่กระสุนด้าน เมื่อตำรวจเห็นความเคลื่อนไหวจึงยิงปืนเลเซอร์ที่ส่องมายังพวกเขาทั้งสอง แต่จองฮยองหลบได้ทัน โชชอลกังจึงถูกยิงกระหน่ำจนล้มลง ก่อนสิ้นใจเขายังบอกจองฮยอกถึงสาเหตุที่พ่อของเขาไม่ตามคดีของพี่ชายจนถึงที่สุด เพราะกลัวจะถูกขุดคุ้ยว่าตนเองเป็นต้นเหตุ และตัวจองฮยอกเองก็ไม่สามารถกลับฝั่งเหนือได้อีก จองฮยอกสะเทือนใจจนเกือบยิงตัวตาย แต่ถูกตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
ยุนเซรีแปลกใจที่จองฮยอกหายไปนานและไม่สามารถติดต่อได้ ยองแอและกลุ่มเพื่อนบ้านออกมาช่วยอูพิลและมยองซุน ไม่ให้ลูกน้องของโชชอลกังจับตัวไป โดยบอกว่าเธอคือยองแอภรรยาสหายผู้พันค่ายมินกยอง กลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวว่าพวกเขามาจากกระทรวงความมั่นคง ยองแอจึงฝากความคิดถึงไปยังสหายมายองซอบปลัดกระทรวงความมั่นคงซึ่งเป็นญาติของเธอ แต่ชายฉกรรจ์ไม่มีทีท่าว่ารู้จักบุคคลที่ยองแอกล่าวถึง เธอจึงรู้ว่าพวกเขาโกหกและขู่ให้กลับไป ไม่เช่นนั้นจะรายงานผู้พัน อูพิลและมยองซุนจึงรอดพ้นจากคนเหล่านี้และไปพักที่บ้านของยองแอเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ชองมันบอกยังไม่กลับมา
สะใภ้รองยังคงเดินหน้าที่จะกำจัดเซรีต่อไป เธอบอกสามีว่าเซรีพากลุ่มคนจากเกาหลีเหนือมาอยู่ในบ้านของเธอ ต่อมาอีกไม่นานทั้งห้าพลทหารถูกจับกุมตัวไปต่อหน้าเซรี โดยมีสะใภ้รองและยุนเซฮยองผู้เป็นสามียืนดูเหตุการณ์อย่างสะใจอยู่ที่ชั้นสอง
ทุกคนถูกนำตัวไปที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติ โดยต้องเปลี่ยนชุดและรองเท้าที่จัดไว้สำหรับการถ่ายรูปและทำประวัติผู้ต้องหา ตอนนี้ท่านอธิบดีกรมการปกครองรู้แล้วว่าจองฮยอกถูกจับกุม ทหารคนสนิทจึงบอกให้เตรียมใจหากเกิดอะไรขึ้น เพราะเลยจุดที่จะปกปิดเรื่องนี้ได้แล้ว
ยุนเซฮยองและสะใภ้รองพยายามเกลี้ยกล่อมประธานยุน โดยบอกว่าจองฮยอกเป็นสายลับและเรื่องของเซรีเป็นปัญหาระดับชาติ แต่ท่านประธานได้ตัดขาดสัมพันธ์กับพวกเขาไปแล้ว จึงไม่ต้องการคุยด้วยอีก ขณะที่ยุนเซจุนและภรรยายืนแอบฟังอยู่ พวกเขาจึงได้ยินแผนการของสะใภ้รองที่กำลังรอกูซึงจุนกลับมา จึงได้นำเรื่องนี้ไปบอกเซรี
เมื่อทุกคนกำลังหลับสนิท เถ้าแก่ชอนจึงตัดเชือกที่มัดมือกูซึงจุน และบอกให้รีบหนีไป ในตอนเช้าขณะที่ซึงจุนกำลังหาทางกลับ เขาเห็นกลุ่มนักเลงจีนกำลังออกตามหา จึงได้ไปหลบในเพิงของเด็กกำพร้าที่ช่วยเขาไว้ ซึงจุนจึงตอบแทนเขาด้วยเงินก้อนหนึ่ง เมื่อเดินผ่านร้านรับจำนำ เขาจึงแวะไปไถ่แหวนเพชรที่เซรีจำนำไว้ ซอดันไม่สามารถติดต่อกูซึงจุนได้ เมื่อไม่เห็นเขาอยู่ในอาพาร์ตเมนท์และข้าวของกระจัดกระจาย
การประมวลคลิปจากกล้องวงจรปิดทุกที่ที่จองฮยอกไป ไม่พบคลิปใดบ่งบอกว่าเขาเป็นสายลับจากฝั่งเหนือ จองฮยอกให้การว่าเขาต้องการพาเซรีกลับเกาหลีเหนือเพราะเห็นว่าเธอเป็นเศรษฐีนี ลูกน้องของเขาไม่มีส่วนผิดเพราะมากับทีมนักกีฬา แต่เขาขอให้ลูกน้องอยู่ช่วย เพราะไม่สามารถเกลี้ยกล่อมยุนเซรีได้ เมื่อเซรีรู้เรื่องนี้ จึงเล่าให้ตำรวจฟังว่า จองฮยอกไม่เคยเหนี่ยวรั้งให้เธออยู่ที่นั่น มีแต่พยายามหาทางส่งเธอกลับและปกป้องเธอด้วยชีวิตของเขา จองฮยอกมาที่นี่เพื่อตามล่าอาชญากรโชชอลกังซึ่งต้องการฆ่าเธอ และเธอเป็นคนปิดบังตัวตนให้จองฮยอกเอง ในเมื่อคำให้การของเซรีและจองฮยอกไม่ตรงกัน ทั้งคู่จึงถูกนำตัวมาสอบปากคำพร้อมๆกัน แต่เซรีขอเวลาเป็นส่วนตัวสักครู่ จองฮยอกทำตัวเฉยชากับเซรี เพื่อให้ตรงกับคำให้การของเขาและไม่ให้เซรีเดือดร้อน เขายังยืนกรานว่าไม่ได้ช่วยเธอเพราะเหตุผลส่วนตัว แต่เพราะต้องการผลประโยชน์ เขาไล่เซรีกลับไปขณะที่อาการของเธอยังไม่ดีขึ้น เซรีหมดสติและถูกหามส่งโรงพยาบาล มีโอกาสเสียชีวิต 40% เพราะเลือดเป็นพิษบวกกับความเครียดและมีไข้สูง
กูซึงจุนซมซานกลับมาถึงหมู่บ้านทหารด้วยความหิวโหย จึงแวะขอข้าวกินที่บ้านของยองแอและชาร์จแบตโทรศัพท์ จากนั้นเขาไปหลบอยู่ในบ้านของจองฮยอก เมื่อซอดันมาหา เขาจึงเล่าว่าถูกนักเลงจีนตามล่าเพราะคำสั่งของพี่ชายยุนเซรี ซอดันชวนเขากลับพยองยาง แต่เขาขอให้เธอไปส่งที่สนามบินในวันรุ่งขึ้นเพื่อกลับยุโรป ซึงจุนสวมแหวนเพชรวงนั้นให้ซอดัน และสัญญาว่าจะกลับมาหาเธอเมื่อชีวิตของเขาดีขึ้นกว่านี้ หลังจากที่ซอดันส่งเขาที่สนามบินแล้ว กูซึงจุนได้รับโทรศัพท์จากคนร้ายที่จับตัวเธอไป โดยให้ไปสถานที่นัดพบภายในหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับเครื่องออก กูซึงจุนตัดสินใจฉีกตั๋วเครื่องบินทิ้งและเลือกที่จะไปช่วยเธอ ขณะเกิดการปะทะ กูซึงจุนพลาดท่าถูกยิงบาดเจ็บสาหัส อาการของยุนเซรีอยู่ในขั้นวิกฤติ ตำรวจจึงอนุญาตให้จองฮยอกไปเยี่ยม