สปอยล์ Voice (Season 4) ตอนที่ 1

<---- จากซีซั่นที่แล้ว ปี 2019 กวอนจูและทีมโกลเด้นไทม์ เผชิญเรื่องราวมากมายแกะรอยจนเจอเข้าของเว็บประมูลฟาเบรแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์น่าสะพรึงที่เกิดมาพร้อมการแบ่งแยกและความเกลียดชัง เขาคือ คาเนกิ มาซายูกิ หัวหน้าโดรู้ตัวว่าคาเนกิคืออูจงอู พี่ชายของเขา เขากับพี่ชายฆ่าผู้ชายที่คิดว่าเป็นพ่อ และเพื่อชดใช้ความผิด หัวหน้าโดจึงไปหาคาเนกิ กวอนจูที่ตามเขาไปจึงถูกคาเนกิจับเป็นตัวประกันหวังจะใช้เธอปลุกสันชาตญาณนักฆ่าของหัวหน้าโดขึ้นมา แต่เพื่อตัดสินโทษพี่ชายตัวเอง หัวหน้าโดได้ฆ่าคาเนกิ หน่วยสวาทที่ได้ข้อมูลเท็จว่าหัวหน้าโดมีอาวุธจึงยิงเขาสุดท้ายหัวหน้าโดก็เสียชีวิต เธอได้รู้ความจริงว่าจริงๆแล้ว หัวหน้าโดวางแผนจบชีวิตตัวเองและต้องการให้เธอกับลูกทีมจดจำเขาในฐานะปีศาจร้ายเพื่อให้พวกเธอเจ็บปวด เธอเจ็บปวดที่ไม่สามารถช่วยหัวหน้าโดได้..

------------------------------------>

ในวันที่ 24 ธันวาคม ปี 2020

ขณะที่ทุกคนกำลังฉลองเทศกาลคริสต์มาส ได้เกิดเหตุฆาตกรรมที่หมู่บ้านวอลด็อก เมืองยังยอง ก่อนเกิดเหตุคนร้ายที่ใช้ฉายาว่า เซอร์คัสแมน ได้สั่งให้จูบอมแททำร้ายข่มขู่ปู่กับย่าของเขาและส่งรูปให้เธอดู แต่หลังจากนั้นเซอร์คัสแมนก็ตามมาฆ่าพวกเขาทั้งหมด เพื่อจัดฉากว่าบอมแทเป็นคนฆ่ายกครัว

สามเดือนหลังจากเกิดเหตุคดีฆาตกรรมที่ยังยอง กวอนจูฝันร้ายซ้ำๆ บ่อยๆ และได้รับอีเมลข่มขู่จากเซอร์คัสแมน ซึ่งบอกว่าตนเองมีความสามารถในการได้ยินเสียงเหมือนกับเธอ แต่เธอคิดว่าคงเป็นแค่การคาดเดาของเซอร์คัสแมนเพราะรู้ว่าเธอเป็นนักวิเคราะห์เสียง ต่อมาเธอสืบทราบมาว่าไอพีของเมลฉบับนั้น มาจากประเทศจีนซึ่งใช้ผ่านวีพีเอ็น และบอมแทที่ถูกฆาตกรรมในปีก่อน ได้พูดก่อนตายว่าเซอร์คัสแมนเป็นผู้หญิงหูดีและได้ยินเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน กวอนจูมักจะได้รับคำใบ้ในอีเมลเสมอเพื่อเตือนเธอก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรม

เดเร็คโจ หัวหน้าสายสืบจากอเมริกา เดินทางมาเกาหลีเพื่อจับแก๊งพ่อค้ายาข้ามชาติ โดยพาลิซ่าหรือโจซึงอา น้องสาวที่พิการทางการพูดกลับมาด้วย เดเร็คได้พบกับหัวหน้าอีและทีมตำรวจ ซึ่งมาจับคนร้ายเช่นกัน หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว เดเร็คตั้งใจว่าจะเดินทางกลับอเมริกาพร้อมกับน้องสาวทันที

กวอนจูได้รับข้อความเสียงจากเซอร์คัสแมนว่ากำลังจะเกิดเหตุฆาตกรรมที่ย่านซังแกห้องเลขที่ 206 และยังบอกอีกว่าพวกเธอทั้งสองคนมีสายสัมพันธ์พิเศษ จากนั้นเธอจึงโทรบอกหัวหน้าพัคจุนกีว่า เมลที่เธอได้รับนั้นเป็นของคนร้ายที่ส่งมาเตือน และน่าจะเป็นผู้หญิงอายุราวๆ 30 ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการได้ยินเช่นกัน กวอนจูโทรถามหัวหน้าอีซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ใกล้ๆบริเวณนั้น แต่เขายังไม่ได้รับข้อมูลอะไร เดเร็คซึ่งอยู่ข้างๆ หัวหน้าอีจึงได้ยินพวกเขาคุยโทรศัพท์กัน

ลิซ่าไปตามหาพ่อของเธอที่ย่านซังแกแต่เธอไม่พบพ่อและบังเอิญไปเห็นเหตุการณ์ฆาตกรรมยกครัวที่ห้องหมายเลข 206 เธอจึงวิ่งไปแอบที่ห้องร้างหมายเลข 205 และรีบส่งข้อความแจ้งตำรวจ ลิซ่าติดต่อเดเร็คไม่ได้ จึงส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือ เซอร์คัสแมนได้ยินเสียงลิซ่าเดินชนกระถาง เธอจึงเดินไปตามหา ลิซ่าถูกทำร้ายและลักพาตัวไปจากที่นั่น

หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมที่ห้อง 205 แล้ว หัวหน้าพัคฮยอน หัวหน้าสายภูมภาคได้รับแจ้งเหตุพร้อมทั้งข้อมูลของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ที่หายตัวไปคือลิซ่าหรือโจซึงอา เดเร็คจึงเช็คข้อความของน้องสาวและรีบตามไปยังที่เกิดเหตุพร้อมกับทีมของหัวหน้าอี เพื่อตามหาลิซ่า จากนั้นหัวหน้าพัคฮยอนจึงโทรบอกกวอนจูว่าเกิดเหตุขึ้นแล้วจริงๆ จึงอยากรู้ว่าในอีเมลที่เธอได้รับนั้น มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีก เดเร็คขอสายคุยกับกวอนจู ซึ่งเธอบอกว่าคนร้ายเป็นผู้หญิงและจะก่อเหตุในวันที่ 25 ทุกๆสามเดือน โดยใช้ชื่อเซอร์คัสแมน

ทีมหัวหน้าพัคฮยอนและเดเร็คช่วยกันออกตามหาลิซ่า โดยมีกวอนจูคอยช่วยฟังเสียงให้ เดเร็ควิ่งตามเซอร์คัสแมนไปอย่างกระชั้นชิดแต่ก็คลาดกัน เมื่อกวอนจูได้ยินเสียงบางอย่างคล้ายนาฬิกาปลุก เดเร็คจึงบอกว่ามันอยู่ในตุ๊กตาของลิซ่าเพื่อใช้เรียกขอความช่วยเหลือ จากนั้นเดเร็คก็ไปตามทิศทางของเสียงอย่างที่กวอนจูบอก แต่นั่นคือกับดักของเซอร์คัสแมนที่ทิ้งไว้เพียงตุ๊กตาเท่านั้น เมื่อได้ยินเสียงแก๊สรั่ว กวอนจูจึงเตือนเดเร็ค ขณะที่หัวหน้าพัคฮยอนพบร่างของลิซ่าที่ถูกฆ่าตายไม่ไกลจากบริเวณนั้น

เซอร์คัสแมนกระหยิ่มใจว่าได้ฆ่ายกครอบครัวทั้งลิซ่าและเดเร็ค เธอจึงเปิดผ้าคลุมหน้าออก และใบหน้านั้นก็เหมือนกับคังกวอนจูราวกับฝาแฝด..